กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.20-35.00 ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ
34.20-35.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.65
บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.11-34.66 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินแตะจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์
ขณะที่นักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยงทำกำไร
โดยตลาดเริ่มไม่แน่ใจว่าการคาดการณ์เกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ถึง
6
ครั้งในปีนี้สมเหตุสมผลหรือไม่หลังข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการออกมาสดใสเกินคาด
ทั้งนี้ รายงานการประชุมเฟดวันที่ 12-13 ธันวาคม แสดงให้เห็นว่าเฟดเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม
และเจ้าหน้าที่เฟดกังวลว่านโยบายที่ตึงตัวมากเกินไปอาจจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ
อีกทั้งเจ้าหน้าที่เฟดบางรายพร้อมที่จะหารือกันเรื่องเงื่อนไขสำหรับการยุติมาตรการปรับลดขนาดงบดุล
(Quantitative Tightening) ซึ่งส่งผลให้ขนาดงบดุลโดยรวมของเฟดหดตัวลงรวมกันกว่า
1 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้
ตลาดวิตกว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งนี้
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 2,088 ล้านบาท
แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 12,352 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์
กรุงศรี เผยว่า ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯเพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟดต่อไป
อนึ่ง แม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งซึ่งแข็งแกร่งเกินคาด
แต่มีการทบทวนตัวเลขเดือนพฤศจิกายนและตุลาคมลงรวม 71,000
ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานที่ลดลงเป็น 3.7% ส่วนหนึ่งสะท้อนการที่ผู้คนเลิกหางานและออกจากตลาดแรงงานไป
อีกทั้งข้อมูลภาคบริการย่ำแย่กว่าคาด
ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินผันผวนสูง ในภาพรวม
เราคาดว่านักลงทุนกำลังอยู่ในช่วงปรับสถานะหลังเทขายดอลลาร์อย่างหนักในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะให้ความสนใจกับแนวทางการดำเนินโครงการ
Digital
Wallet ทางด้านดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนธันวาคมของไทยลดลง 0.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามและเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 34 เดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากมาตรการภาครัฐ
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.58% ทั้งนี้ ในปี 66 เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.23%
ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.27%
กระทรวงพาณิชย์คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคมมีโอกาสติดลบต่อเนื่อง