ดีพร้อม ขานรับนโยบาย เอกนัฏ สนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ เชื่อมโยงอัตลักษณ์แฟชั่นไทย เสริมแกร่งศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่ระดับสากล ดันเศรษฐกิจโตกว่า 30 ล้านบาท
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
หรือ ดีพร้อม (DIPROM)
ขานรับนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
เซฟพี่น้องอุตสาหกรรมไทย สร้างความเท่าเทียม สร้างรายได้
สร้างโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นผ่านนโยบายซอฟต์พาวเวอร์
(Soft Power) เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย
พร้อมผลักดันให้ออกสู่ตลาดสากล พัฒนาองค์ความรู้และเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่น ผ่านกิจกรรม “เพิ่มศักยภาพและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่นสู่ตลาดสากล (DIPROM Fashion Connext 2024) ประจำปี 2567” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ระดับโลก
คาดสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า
30 ล้านบาท
นางสาวอังสนา โสมาภา
ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป
การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายหลากหลายประการ
ทั้งทรัพยากรที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตมีปริมาณจำกัดลงทุกขณะ ดังนั้น ผู้ประกอบการ
SME
ยุคใหม่
ต้องมีความพร้อมทั้งองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ
ทักษะการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามนโยบายสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power
ของประเทศ ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายเอกนัฏ
พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดนโยบายในการ “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” เซฟพี่น้องอุตสาหกรรมไทย
สร้างความเท่าเทียม สร้างรายได้ สร้างโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยได้มอบหมายให้
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์
ประกอบไปด้วย การศึกษาและพัฒนาทรัพยากรและทุนทางวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์
การพัฒนาบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้
พัฒนาทักษะอาชีพ และการดำเนินธุรกิจ
การพัฒนาธุรกิจเพื่อยกระดับขีดความสามารถของซอฟต์พาวเวอร์ไทย
โดยการส่งเสริมธุรกิจให้ได้การรับรองมาตรฐาน หรือเครื่องหมายการรับรองไทยและสากล การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย
สู่ระดับประเทศและระดับสากล เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างแบรนด์ของสินค้า
อีกทั้งเป็นการส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจทั้งในระดับประเทศและสากล
และการสนับสนุนปัจจัยเอื้อในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย ด้วยการสร้างและส่งเสริมปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของซอฟต์พาวเวอร์เชื่อมโยงความร่วมมือ
สร้างเครือข่ายพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย
และเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบธุรกิจ
นางสาวอังสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM)
ภายใต้การนำของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา
รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการส่งเสริมวัฒนธรรม
ธุรกิจ และความเป็นไทยให้ก้าวสู่ซอฟต์พาวเวอร์ในระดับสากล ทั้งด้านการออกแบบ
กระบวนการผลิต การตลาด มาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์
บวกกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานร่วมกันกับเพื่อนนักออกแบบ
และผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงผ่าน “กิจกรรมเพิ่มศักยภาพและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่นสู่ตลาดสากล
(DIPROM Fashion Connext 2024)” ประจำปี 2567 ซึ่งมีผู้ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 26 กิจการ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีหลักสูตรต่าง ๆ ประกอบด้วย 1) ฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ ในรูปแบบ Upskill & Reskill กับผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรมืออาชีพในด้านอุตสาหกรรมแฟชั่น เพื่อพัฒนานักออกแบบและ
แบรนด์แฟชั่นไทยสู่สากล 2) เชื่อมโยงสินค้าแฟชั่นเข้ากับอัตลักษณ์ของไทยใน
4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ
จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร
และภาคใต้ จังหวัดสตูล เพื่อค้นหาความเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค
นำมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ ทั้งการใช้รูปแบบ ลวดลาย วัสดุที่นำมาผสามผสานกับผลิตภัณฑ์ของตนเองให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ใหม่ในเชิงพาณิชย์ 3)
สัมมนาเชิงปฏิบัติการ
(Workshop) โดยมีผู้เชี่ยวชาญ /
วิทยากรมืออาชีพ ประจำกลุ่มอย่างใกล้ชิด เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียการออกแบบให้ผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน
4) ให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์
การตลาด และการสร้างแบรนด์แฟชั่น โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ในด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์แฟชั่น
การสร้างแบรนด์แฟชั่น เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ผลิตจริงและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์
5) จัดประกวดผลิตภัณฑ์ต้นแบบภายใต้โจทย์ “การเชื่อมโยงอัตลักษณ์ไทยกับสินค้าแฟชั่นเพื่อผลักดันสู่ระดับสากล”
พร้อมนำเสนอผลงานและคัดเลือกผู้ชนะ จำนวน 3 กิจการ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ระดับโลก คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า
30
ล้านบาท
การจัดงานดังกล่าว
เป็นการแสดงถึงผลสำเร็จของผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วม “กิจกรรมเพิ่มศักยภาพและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่นสู่ตลาดสากล
(DIPROM Fashion Connext 2024)” ที่พร้อมผลักดันออกสู่ตลาดสากล ซึ่งจะมีกิจกรรมภายในงาน
อาทิ การเดินแฟชั่นโชว์ เพื่อเปิดประสบการณ์ การจัดแสดงผลงานผ่านแฟชั่นโชว์ให้กับผู้ประกอบการทั้ง
26 กิจการ กิจกรรมเสวนา “อุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ที่ก้าวไกลสู่สากล”
กับนักออกแบบด้านแฟชั่นชั้นนำของไทย รวมทั้งมอบรางวัลให้กับผู้ผ่านการคัดเลือกที่จะได้
ไปสู่ตลาดสากล จำนวน 3 กิจการ ได้แก่
มัดมอวาลู ซน แฮนด์ดิคราฟท์ สตูดิโอ และ ตุ้ย จิวเวอรี่ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ สามารถสร้างความโดดเด่น เป็นอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์ของตนเองและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
พร้อมเติบโตอีกระดับและก้าวสู่การเป็นแบรนด์สินค้าที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล นางสาวอังสนา กล่าวทิ้งท้าย