การเคหะแห่งชาติฉลองครบรอบ 52 ปี จัดกิจกรรมวิชาการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมดึงสองรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ PEA และ EGAT เสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการพลังงานและพลังงานทดแทน

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมวิชาการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องในโอกาสครบรอบ 52 ปี การเคหะแห่งชาติ และร่วมแสดงความยินดีการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการบริหารจัดการพลังงานและพลังงานทดแทน โดย นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล ร่วมกับ นายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติยังได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการเพื่อการพัฒนาและขยายธุรกิจด้านการพลังงานและกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ นายสายัณห์ ปานซัง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) เพื่อร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือในการพัฒนาและบริหารจัดการพลังงานและพลังงานทดแทน ทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ

 

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาและบริหารจัดการด้านพลังงานและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพ เป็นการขับเคลื่อนนโยบายการลดใช้พลังงานของภาครัฐ เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพลังงานชาติ ด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เนื่องจากประชาชนมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการบริหารจัดการพลังงานที่ดีและมีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน รวมถึงการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เพื่อช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) เป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะด้านการอยู่อาศัยที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กรและประเทศให้มีความยั่งยืนในระยะยาว

 

สำหรับการจัดกิจกรรมวิชาการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องในโอกาสครบรอบ 52 ปี การเคหะแห่งชาติ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และสร้างความเข้าใจของการพัฒนาและบริหารจัดการพลังงานทดแทนให้กับผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติ รวมถึงการนำความรู้ด้านพลังงานทดแทนไปสนับสนุนการพัฒนาและปรับปรุงข้อมูลสารสนเทศในมิติที่อยู่อาศัยกับสิ่งแวดล้อมของศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ 

 

นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเคหะแห่งชาติถือโอกาสนี้ดึงเครือข่ายพันธมิตรรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง

มาหนุนเสริมเรื่องการจัดการพลังงานและพลังงานทดแทนในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ ด้วยการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัลระหว่างการเคหะแห่งชาติและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) การติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และการอนุรักษ์พลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานจากการบริหารจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนโดยเฉพาะมิติเศรษฐกิจ ลดค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือน รวมถึงการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการเพื่อการพัฒนาและขยายธุรกิจด้านการพลังงานและกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างการเคหะแห่งชาติและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) เพื่อร่วมกันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่ที่มีศักยภาพของการเคหะแห่งชาติ เช่น การติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ทำการของสำนักงาน พื้นที่จอดรถ และพื้นที่ในโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้บริการบุคลากรและบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการสนับสนุนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดที่สนับุสนให้มีการใช้งานสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่เพิ่มขึ้น 

“ผมขอขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคีเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่สำคัญในการที่จะได้ร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือในการพัฒนาและบริหารจัดการพลังงาน และพลังงานทดแทนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ รวมทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและค่าไฟฟ้าของผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม” 

 

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการลงนามความร่วมมือกับสองหน่วยงานแล้ว การเคหะแห่งชาติยังได้จัดการบรรยายให้ความรู้เรื่อง “ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ส่งเสริมสังคมที่อยู่อาศัยคาร์บอนต่ำ ตอบโจทย์แผนพลังงานแห่งชาติ และการบรรยายเรื่อง “การบริหารจัดการขยะ การจัดการของเสีย น้ำเสีย และวัสดุเหลือทิ้งกลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ เพื่อชุมชนการเคหะแห่งชาติ” โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการพลังงานอัจฉริยะ บริษัท เมฆาวี จำกัด บริษัท รูทคลาวด์ เทคโนโลยี สิงคโปร์ จำกัด และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาบรรยายให้ความรู้เรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราสามารถบริหารจัดการพลังงานได้ด้วยตนเอง

Visitors: 14,253,707