ศุภาลัยไม่หวั่นพายุเศรษฐกิจ กางแผนปี 2568 ลงทุนใหม่ 46,000 ล้าน

ศุภาลัย ชูกลยุทธ์ธุรกิจปี 68 มุ่งสู่ Multi-NationalCompanyความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมดันยอดขายทะลุเป้า 32,000 ลบ.

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2568 ด้วยกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ ชูสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง รองรับการขยายตัวสู่การเป็น Multi-NationalCompany นำเทคโนโลยีเสริมทัพในการดำเนินธุรกิจ ตั้งเป้ายอดขาย 32,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม รวม 36 โครงการ ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวมมูลค่า 46,000 ล้านบาท

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 คาดว่าจะมีการขยายตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยผู้ประกอบการยังคงเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการเติบโตของตลาด หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงคือ  การลดลงของ Supply จากบริษัทต่างๆ เปิดโครงการลดลง ที่ดินทำเลดีหายากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ให้ความสนใจในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองต่อเทรนด์สีเขียว และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง AI และ IoT โดยมีความท้าทายที่ต้องจับตา เช่น อัตราดอกเบี้ย ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ยังคงมีโอกาสสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด โดยเฉพาะจากการลงทุนจากต่างชาติ และการขยายตัวของเมืองรอง ในทำเลศักยภาพใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตได้

ภาพรวมของบริษัทฯ ปี 2568  บมจ.ศุภาลัยได้ก้าวสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติจากการขยายการลงทุนในประเทศออสเตรเลียในปลายปี 2567 ซึ่งถือเป็นปีสำคัญแห่งการเติบโตขยายศักยภาพในทุกมิติ ด้วยศักยภาพและความพร้อมของส่วนของผู้ถือหุ้นที่สูงที่สุดและหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ โดยได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจากทริสเรทติ้งที่ระดับ A ต่อเนื่อง 11 ปี สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการเติบโตทางธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 97,876 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของ     ผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 51% อีกทั้งมีทุนหรือส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ที่ 52,929 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.85 เท่า และยังสามารถสร้างกำไรสุทธิ 4,201 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 ซึ่งสูงสุดเมื่อเทียบกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในอุตสาหกรรม แสดงถึงความมั่นคงและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว

 

บมจ.ศุภาลัย มีแผนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้จะมีโครงการระหว่างพัฒนารวมเกือบ 300 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันศุภาลัยได้ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลียแล้ว 24 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งหมด 185,500 ล้านบาท ด้วยเงินลงทุนของศุภาลัย 22,300 ล้านบาท โดยยอดขายในปี 2567 เติบโตจากปี 2566 สูงถึง 49% ซึ่งเป็นการเติบโตเป็นที่น่าพึงพอใจ สำหรับในปี 2568 คาดว่ายอดขายในประเทศออสเตรเลียมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้มากถึง 100% ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการขยายฐานรายได้ของบริษัทฯ  ในต่างประเทศ สำหรับการลงทุนในประเทศ กำหนดงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท เพื่อขยายการพัฒนาโครงการในทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ซึ่งครอบคลุมมากถึง 30 จังหวัด โดยเพิ่มจังหวัดใหม่ ได้แก่ ลพบุรี สุพรรณบุรี รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจของภาคใต้อย่างเกาะสมุย อีกทั้งมีการพัฒนาบ้านและคอนโดมิเนียม ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ แบบบ้านใหม่ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพสินค้า นวัตกรรมที่อยู่อาศัยรักษ์โลก ส่งมอบบ้านและการบริการที่ดีที่สุด ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

 

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ผลการ   ดำเนินงานปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทายแต่บริษัทฯ ก็สามารถก้าวผ่านมาได้อย่างมั่นคง ด้วยความพร้อมทางต้นทุนทางการเงิน และความสามารถในการบริหารความเสี่ยง โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม รวม 41 โครงการ มูลค่ารวม 52,380 ล้านบาท มียอดขายรวม 26,743 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 37 โครงการ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 โครงการ, ภูมิภาค 21 โครงการ) และโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ

สำหรับแผนงานปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขาย 32,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 30,000 ล้านบาท โดยวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 36 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 28 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 46,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะมีการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ในหลากหลายด้าน เพื่อปรับตัวทำการตลาดให้โดนใจลูกค้า และการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

 

·     ด้านสินค้าและผลิตภัณฑ์  พัฒนาโครงการแนวราบในราคาที่เข้าถึงได้ เจาะกลุ่มตลาดระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีการพัฒนาแบบบ้านใหม่ เพิ่มการลงทุนในที่ดินขนาดใหญ่ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้แห่งการอยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวมถึงมุ่งมั่นการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และเพิ่มระยะเวลารับประกัน โดยโครงการคอนโดมิเนียม โครงสร้างจากเดิม 5 ปี เพิ่มเป็น 10 ปี และส่วนควบจากเดิม 2 ปี เพิ่มเป็น 3 ปี รวมทั้งโครงการแนวราบ ส่วนควบจากเดิม 1 ปี เพิ่มเป็น 3 ปี โดยบริษัทฯ ได้นำร่องที่โครงการคอนโดมิเนียม คือ ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ, ศุภาลัย เซนส์ ศรีนครินทร์ และโครงการแนวราบที่ศุภาลัย เอสเซ้นส์ บางนา-สุวรรณภูมิ เพื่อตอบโจทย์ความมั่นใจในการอยู่อาศัยในโครงการศุภาลัย

·     ด้านการตลาด  มีการนำ AI และเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านการตลาด โดยการนำข้อมูลมาวิคราะห์ เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อที่อยู่อาศัยที่ง่าย สะดวก และตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

·     ด้านนวัตกรรมดิจิทัล  ผสานนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด Smart Village เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย

·     ด้านสิ่งแวดล้อม  มุ่งสู่ความยั่งยืนในการสร้างความร่วมมือกับคู่ค้า ด้วยการจัดเก็บข้อมูลการปล่อยคาร์บอนฯ ของวัสดุที่ใช้ในทุกกระบวนการของธุรกิจ 100% ในปี 2568 มุ่งสู่เป้าหมายการจัดซื้อวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Procurement)

·     ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ด้วยความโปร่งใสและจริยธรรม พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายและจรรยาบรรณทางธุรกิจ

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรก เตรียมพบกับไฮไลต์โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ “Romantic Charm” ปักหมุดโครงการแรกบนถนนอุทยาน กับโครงการ ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ถนนอุทยานมอบความทันสมัย หรูหรา ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติ และทำเลใกล้เมือง ในราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท พร้อมเปิดขายในวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์นี้

คาดว่าปี 2568 นี้ จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายในหลายมิติ ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขัน อย่างไร  ก็ตาม บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตทางด้านรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และเสริมความแข็งแกร่งในระยะยาว

 

 

 

Visitors: 14,229,097