กรุงศรี จับมือ SkillLane เปิดโลกการเรียนรู้ออนไลน์เสริมศักยภาพ SME เพื่ออนาคตธุรกิจยุคใหม่
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน))
และ SkillLane ผู้นำในธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สัญชาติไทย
ประกาศความร่วมมือในการสนับสนุนกลุ่มลูกค้า SME ในการพัฒนาความรู้ด้านดิจิทัล
(Digital Literacy) และความรู้ด้าน ESG
(Environmental, Social, and Governance) เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดยุคใหม่ โดยความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างขีดความสามารถของธุรกิจ
SME ให้สามารถปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านการกำกับดูแลและการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ซึ่งกำลังกลายเป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับธุรกิจยุคใหม่
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ
ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับ
SkillLane ในการพัฒนาความรู้และศักยภาพของบุคลากรของลูกค้าองค์กร
และลูกค้ารายย่อย ผ่านจุดแข็งของกรุงศรีและ SkillLane ในเฟสแรกของความร่วมมือครั้งนี้
เรามุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME และผู้ประกอบการของกรุงศรี
โดยการสร้างเสริมความรู้และความสามารถของบุคลากรที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจยุคใหม่ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้แก่องค์กร
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ และส่งเสริมเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจระยะกลางของเราที่มุ่งเน้นเรื่องขับเคลื่อนความยั่งยืนเชิงเศรษฐกิจ
สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล สู่อนาคตที่มั่นคง ทั้งนี้
ในอนาคตจะขยายผลความร่วมมือไปยังลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ของธนาคาร
เพื่อเข้าถึงความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจ
พร้อมทั้งแบ่งปันความรู้ทางการเงินผ่านแพลตฟอร์มของ SkillLane สำหรับบุคคลทั่วไป”
นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์
ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า “โลกธุรกิจปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและท้าทาย
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SME ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การที่ผู้ประกอบการ SME
จะสามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย
โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจ รวมถึงการปฏิบัติตามหลักการ ESG ซึ่งกำลังกลายเป็นมาตรฐานสำคัญในการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ กรุงศรีในฐานะธนาคารพันธมิตรที่เคียงข้างผู้ประกอบการไทยมาโดยตลอด
พร้อมที่จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ควบคู่กับการเสริมสร้างทักษะและความรู้ให้กับผู้ประกอบการ
SME เพื่อให้สามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้ดำเนินการผ่านโครงการฝึกอบรมและงานสัมมนาต่างๆ
มากมาย รวมถึงการร่วมมือกับ SkillLane ในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ให้กับผู้ประกอบการ
SME เพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้ และเสริมศักยภาพในการปรับตัวสู่โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
และสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป”
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ลูกค้าธุรกิจ SME ของกรุงศรี
จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการใช้บริการแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ของ SkillLane
อาทิ สิทธิ์เรียนฟรีสำหรับคอร์สที่เกี่ยวกับความรู้ด้านดิจิทัล
และความรู้ด้าน ESG สำหรับผู้ประกอบการ
หรือส่วนลดพิเศษสำหรับคอร์สอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการสนใจ
รวมทั้งคอร์สเพื่อพัฒนาความสามารถของพนักงาน การจัดสัมมนาเพื่อปลูกฝังองค์ความรู้ด้านต่างๆจากผู้
เชี่ยวชาญจากหลายสาขาและวิทยากรทรงคุณวุฒิ โดยลูกค้าธุรกิจ SME ของกรุงศรี สามารถใช้บริการและรับอัปเดตข่าวสารดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์ม Living
Room ของธนาคาร ซึ่งเป็นพอร์ทอลรวมบริการต่างๆ ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการทำธุรกรรมและบริการต่างๆ
ผ่านช่องทางเดียว สามารถบริหารจัดการได้อย่างง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้
กรุงศรียังได้นำองค์ความรู้ต่างๆ ของธนาคารมาเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม
SkillLane ด้วยเช่นกัน เพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ
SME ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ด้านนายเอกฉัตร อัศวรุจิกุล
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี
จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “SkillLane มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับกรุงศรีในการเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ
SME ไทยให้พร้อมรับมือโลกยุคใหม่
ผ่านการพัฒนาความรู้ด้านดิจิทัล (Digital Literacy) และ ESG
(Environmental, Social, and Governance) ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
เราเชื่อว่าการศึกษาเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทั้งบุคคลและองค์กรบรรลุเป้าหมาย
และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs
รวมถึงลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ของกรุงศรีในอนาคต ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ
SkillLane กว่า 10 ปีในเทคโนโลยีด้านการศึกษา โดยปัจจุบัน SkillLane
มีคอร์สเรียนออนไลน์คุณภาพมากกว่า 4,100
คอร์สเรียน และเครือข่ายอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 1,300
คน”