“พัชรวาท” ห่วงชาวบ้านประสบภัยน้ำท่วม สั่งการ “กรมทรัพยากรน้ำ” บูรณาการทำงานเชิงรุก เข้าช่วยเหลือ มอบ ทสจ.ขอนแก่น

พัชรวาทห่วงชาวบ้านประสบภัยน้ำท่วม สั่งการ กรมทรัพยากรน้ำบูรณาการทำงานเชิงรุก เข้าช่วยเหลือตามแผน มอบ ทสจ.ขอนแก่น เร่งระบายน้ำบึงหนองโคตร หวั่นน้ำทะลักทำประชาชนเดือดร้อน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำ ทำงานเชิงรุกตามแผนการป้องกันและช่วยเหลือภัยพิบัติน้ำท่วม ในฤดูฝน โดยให้เร่งดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในฤดูฝน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ไขปัญหาภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล อีกทั้งกำชับให้หน่วยงานภายใต้สังกัดของ 2 หน่วยงาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1-11 และสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1-12 รวมถึงสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมตามแผนและมาตรการที่กำหนดไว้ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ตลอดจนระบบโทรมาตรและระบบแจ้งเตือนให้สามารถตรวจวัดและแจ้งเตือนให้กับประชาชนได้ทราบข้อมูลอย่างทันท่วงที เร่งพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำทุกประเภทเพื่อรองรับน้ำและกักเก็บไว้ใช้ในปีถัดไป ตรวจสอบความมั่นคงและความปลอดภัยของอาคารบังคับน้ำ คันกั้นน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมถึงขอให้ปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ


กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการตามนโยบาย 10 มาตรการรับมือฤดูฝนของรัฐบาล เข้าดำเนินการป้องกันและบรรเทาความเดือนร้อนในพื้นที่บึงหนองโคตร ซึ่งประสบปัญหาคือในฤดูฝนมีปริมาณน้ำในบึงหนองโคตรเต็มจะทำให้พื้นที่โดยรอบทั้งหมดเกิดภาวะน้ำท่วมสูง ประชาชนในพื้นที่กว่า 48,000 คน ได้รับความเดือดร้อนค่อนข้างมาก ซึ่งบึงหนองโคตรมีพื้นที่ประมาณ 700 ไร่ มีความลึกอยู่ระหว่าง 10 - 30 เมตร และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่น ที่มีทั้งหมู่บ้าน โรงเรียน สถานที่ราชการหลายแห่ง และยังเป็นเส้นทางที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้สัญจร ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนจังหวัดขอนแก่นจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและดำเนินการปรับแผนตามสถาการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อปริมาณน้ำสูงถึงระดับที่จะเสี่ยงอาจมีผลทำให้ชาวบ้านบริเวณโดยรอบได้รับความเดือดร้อนก็จะดำเนินการระบายน้ำออกจากบึงหนองโคตรจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และปัจจุบันสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 ได้รับมอบหมายให้เร่งพร่องน้ำบึงหนองโคตรโดยใช้เครื่องสูบน้ำเพื่อพร่องน้ำวันละ 5-10 เซนติเมตรหรือประมาณ 50,000 - 100,000 ลบ.ม.


นายชูชาติ นารอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ ๔ กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ ๔ เร่งดำเนินการตามนโยบายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชุมร่วมกับจังหวัดขอนแก่นเพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ โดยถอดบทเรียนร่วมกันในการแก้ไขปัญหาจากปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้กรมทรัพยากรน้ำเตรียมความพร้อมในภาพรวม ทั้งเรื่องเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ ประจำจุดเสี่ยงและติดตามการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 ร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านเป็ด รับผิดชอบพร่องน้ำบึงหนองโคตร โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 30 นิ้ว ปริมาณการสูบน้ำ 7,200 ลบ.ม./ชม. จำนวน 1 เครื่อง และขนาด 24 นิ้ว ปริมาณการสูบน้ำ 5,400 ลบ.ม/ชม. จำนวน 1 เครื่อง เพื่อสูบพร่องน้ำ ระบายน้ำออกจากบึงหนองโคตร ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 700 ไร่ ให้มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอย่างน้อย ประมาณ 3 เมตร เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลมาเพิ่มเติม ป้องกันน้ำท่วมขังระบายไม่ทันในเขตเทศบาลตำบลบ้านเป็ด ลงสู่คลองชลดา (คลองร่องเหมือง) ไหลลงสู่บึงทุ่งสร้างไปยังแม่น้ำชีต่อไป โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ปริมาณที่สูบพร่องน้ำจากบึงหนองโคตรรวม 4,614,000 ลบ.ม. ทั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการและแก้ไขปัญหาภาวะน้ำแล้งและน้ำท่วมส่วนหน้าเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาปัญหาภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วมในเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมดทั้งนี้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุภัยภัยพิบัติน้ำท่วมได้ที่ สายด่วน Green call 1310 กด 5 กรมทรัพยากรน้ำ

Visitors: 14,094,693