สปสช.ลงพื้นที่ 50 เขต ทั่วกรุง ชวนหน่วยบริการเอกชนร่วมโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ”

สปสช.ลงพื้นที่ ชวนหน่วยบริการเอกชนร่วมโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ” คนกรุงใช้สิทธิ เพียงสังเกตตราสัญลักษณ์ใหม่สีแดง “30 บาทรักษาทุกที่” เข้ารับบริการได้ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว

สปสช. กทม. นำทีมลงพื้นที่ 50 เขต ทั่วกรุง เร่งเครื่องให้ความรู้พร้อมเชิญชวนคลินิก สถานพยาบาล และร้านยาเอกชน 7 ประเภทเข้าร่วมโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร” เพิ่มทางเลือกให้คนเมืองหลวงสิทธิบัตรทอง ใช้บริการผ่านหน่วยบริการนวัตกรรมได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อลดปัญหาความหนาแน่นของโรงพยาบาลขนาดใหญ่

ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ และโฆษก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า “สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ได้เร่งเครื่องโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร” อย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับการให้บริการสาธารณสุขเพื่อประชาชนชาวกรุงเทพมหานครผู้ถือสิทธิบัตรทอง ได้ใช้บริการผ่านหน่วยบริการนวัตกรรมได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งเพื่อลดปัญหาความหนาแน่นของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการยกระดับ Contact Center 1330 เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชน รวมถึงการปรับปรุงระบบออนไลน์แบบ One Stop Service เพื่อรองรับทั้งในส่วนการขึ้นทะเบียนและการเบิกจ่ายสำหรับหน่วยบริการนวัตกรรม เพื่อให้สามารถลงทะเบียนง่าย จ่ายเงินคืนเร็ว พร้อมกันนี้ ล่าสุด ยังได้จัดทีมลงพื้นที่ 50 เขต ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ข้อมูล เชิญชวน และอำนวยความสะดวกแก่หน่วยบริการเอกชนทั้ง คลินิก สถานพยาบาล และร้านยาเอกชน ในการขึ้นทะเบียน

ปัจจุบันมีหน่วยบริการเอกชนในกรุงเทพมหานครที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,500 แห่ง โดยสัดส่วน กลุ่มที่มีการตอบรับมากที่สุดคือร้านยา GPP+ จำนวน 865 แห่ง ตามมาด้วยคลินิกเวชกรรม 143 แห่ง และคลินิกทันตกรรม 123 แห่ง นอกจากนี้ สปสช. ยังได้ขยายบริการเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความและลดความแออัดให้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่และหน่วยบริการนวัตกรรมทั้ง 7 ประเภท ด้วยการเพิ่มบริการแพทย์ทางไกล เจาะเลือดที่บ้าน รถรับส่งผู้ป่วย รถทันตกรรมเคลื่อนที่ และตู้เทเลเมดดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชน เป็นต้น

ทันตแพทย์อรรถพร กล่าวต่อว่า “สำหรับหน่วยบริการเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถเตรียมเอกสารสมัครดังนี้ ใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน (แบบ ข.ย.5) สำหรับร้านยา ส่วนสถานพยาบาลประเภทอื่นไม่ต้องใช้เนื่องจากเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพแล้ว, หนังสือมอบอำนาจและเอกสารผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมีมอบอำนาจ), บัญชีธนาคารพร้อมสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (Book Bank) โดยชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อหน่วยบริการ หรือนิติบุคคล หรือ ชื่อผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล สพ.7 โดยไม่ต้องวางหลักประกันสัญญา และประกาศขึ้นทะเบียนและลงนามนิติกรรมภายใน 5 วันทำการ สามารถยื่นเอกสารสมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แล้ววันนี้! แบบ One Stop Service ผ่านทางเว็บไซต์ https://ossregister.nhso.go.th/#/public-portalหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร สายด่วน สปสช. 1330 กด 5

 

“โครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ” ประชาชนผู้ถือสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับบริการได้เลย ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว เพียงสังเกตตราสัญลักษณ์ใหม่สีแดง “30 บาทรักษาทุกที่” ซึ่งจะปรากฏที่หน่วยบริการนวัตกรรม 7 ประเภท ได้แก่ คลินิกเวชกรรม, คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์, คลินิกทันตกรรม, คลินิกเทคนิคการแพทย์คลินิกการแพทย์แผนไทย , คลินิกกายภาพบำบัด และ ร้านยา GPP+ ร้านยาคุณภาพ” ทันตแพทย์อรรถพร กล่าวปิดท้าย

หมายเหตุ : ข้อมูลจำนวนหน่วยบริการนวัตกรรม ณ วันที่ 15 กรกฏาคม 2567

 

 

 

Visitors: 14,099,962