ลอรีอัล กรุ๊ป บรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน 100%ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ
ลอรีอัล กรุ๊ป บรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในสถานประกอบการ¹
ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ
(SAPMENA)
รวมทั้งประเทศไทยในสิ้นปี 2566 ครอบคลุมโรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า สำนักงาน
และศูนย์วิจัยและนวัตกรรมทั้งหมดภายในภูมิภาค
ถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางความยั่งยืนของภูมิภาค และเกิดขึ้นในช่วงเวลาของการเติบโตอย่างคึกคักของธุรกิจของลอรีอัล
กรุ๊ปใน SAPMENA
ที่มีการเติบโตของทั้งการผลิตและยอดขายในระดับเลขสองหลักตั้งแต่ปี
2564
“ความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจของเรา ภูมิภาค SAPMENA ของลอรีอัลครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กว้างใหญ่มาก
ตั้งแต่นิวซีแลนด์ไปจนถึงโมร็อกโก และเป็นกลไกการเติบโตที่สำคัญของลอรีอัล กรุ๊ป
โดยผู้บริโภครายใหม่หนึ่งในสองคนจะมาจากภูมิภาคนี้ในทศวรรษหน้า
ภูมิภาคนี้เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด
และในฐานะผู้นำด้านความงามระดับโลก
จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องนำแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินงานของเราในขณะที่เราเติบโต
การบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ
และผมภูมิใจในความพากเพียรของทีมงานในการเร่งและบรรลุเป้าหมายนี้ได้สำเร็จก่อนกำหนดในปี
2568 เรายังไม่หยุดเพียงเท่านี้ นี่เป็นเพียงก้าวหนึ่งในหลายๆ
ก้าวบนเส้นทางความยั่งยืนของเรา พันธสัญญาของเราขยายครอบคลุมกว่านี้อีกมาก” วิสเมย์
ชาร์มา ประธานของลอรีอัล กรุ๊ป ภูมิภาค SAPMENA กล่าว
โซลูชันที่หลากหลายสำหรับภูมิภาคที่หลากหลาย
ลอรีอัล SAPMENA มีสถานประกอบการ 23 แห่งที่ครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กว้างใหญ่
จึงจำเป็นต้องมีโซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่หลากหลาย
ตั้งแต่การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ไปจนถึงเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่มีอยู่เดิม ไปจนถึงการเลือกหม้อผลิตไอน้ำไฟฟ้าแทนหม้อต้มน้ำที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
ในกรณีที่ไม่สามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนในสถานที่ได้ ลอรีอัล SAPMENA ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) และ/หรือใช้สัญญาจัดหาพลังงานสีเขียวและมาตรฐานการรับรองคุณลักษณะทางพลังงาน
กลยุทธ์แบบหลายแนวทางของลอรีอัล SAPMENA เพื่อบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ประกอบด้วย:
1)
การลดการและเลิกการใช้พลังงานทั่วทั้ง
SAPMENA: มีการนำเครื่องมือและแนวปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมาใช้ในสถานประกอบการทั้ง
23 แห่ง¹ ในปี 2566 ความเข้มข้นของการใช้พลังงานโดยรวมทั่ว SAPMENA ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปี 2562
2)
โรงงานใช้โซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่หลากหลาย: โรงงานทั้งสี่แห่งของลอรีอัล SAPMENA ในอียิปต์ อินเดีย และอินโดนีเซีย ใช้พลังงานหมุนเวียนจากลม ชีวมวล พลังน้ำ
หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินงาน
ตัวอย่างเช่น โรงงานทั้งสี่แห่งเลิกใช้หม้อผลิตไอน้ำที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
และใช้หม้อผลิตไอน้ำไฟฟ้าหรือชีวมวล/เชื้อเพลิงชีวภาพแทน
3)
การเพิ่มการผลิตพลังงานหมุนเวียนในสถานประกอบการอื่นๆ
ทั้งหมด: ในกรณีที่เป็นไปได้ ลอรีอัลได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่สำนักงานและศูนย์กระจายสินค้า
ซึ่งมีตั้งแต่ระบบติดตั้งบนพื้นดิน การติดตั้งบนหลังคา และหลังคาที่จอดรถ
สำหรับประเทศไทยนั้น
ลอรีอัลมุ่งมั่นลดผลประทบจากการดำเนินธุรกิจด้วยวิธีการที่หลากหลาย
ตั้งแต่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการเริ่มนำรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้ามาใช้สำหรับการขนส่งสินค้าในกรุงเทพฯ
และปริมณฑล การจำกัดการนำเข้าสินค้าทางอากาศ ศูนย์กระจายสินค้าสีเขียว
ไปจนถึงการออกแบบสำนักงานแห่งใหม่ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
ด้วยระบบควบคุมการใช้พลังงานอัจฉริยะ ทั้งระบบแสงสว่างและการควบคุมอุณหภูมิ
อันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ธุรกิจที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง
มุ่งสู่ Net Zero
ความยั่งยืนเป็นการเดินทางอย่างต่อเนื่องที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่าและการบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน
100% ในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าพันธสัญญาในปี 2568 ถึงสองปี
ถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้นของลอรีอัล SAPMENA ลอรีอัลจะยังคงลงงบประมาณและรักษาพันธสัญญาในการดำเนินงานด้วยพลังงานหมุนเวียน
100% และจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานประกอบการของเราในปีต่อๆ ไป
ลอรีอัลมุ่งมั่นที่จะลดคาร์บอนในบรรจุภัณฑ์ โลจิสติกส์
และการขนส่ง และลงทุนในการยกระดับทักษะและให้ความรู้แก่ซัพพลายเออร์เชิงกลยุทธ์
ภายในปี 2573
เราจะสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ผู้บริโภคของเราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของเราลง
25% เมื่อเทียบกับปี 2559
โดยเฉลี่ยและต่อผลิตภัณฑ์
L'Oréal
for the Future คือโปรแกรมด้านความยั่งยืนระดับโลกที่เริ่มในปี 2563 สะท้อนความทะเยอทะยานด้านความยั่งยืนของลอรีอัล กรุ๊ป
ผ่านการทำงานบนแนวคิดเชิงกลยุทธ์หลักๆ 3 แกนหลัก ได้แก่:
1)
การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมทางธุรกิจเพื่อเคารพขอบเขตของโลก: โดยการจำกัดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ น้ำ
ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติ
2)
การเสริมสร้างศักยภาพระบบนิเวศทางธุรกิจของตนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่โลกที่ยั่งยืน
3)
การมีส่วนร่วมในการแก้ไขความท้าทายของโลก โดยการสนับสนุนความต้องการทางสังคมและสิ่งแวดล้อมเร่งด่วน