คปภ. ผนึก ภาคธุรกิจประกันภัย แถลงผลการประชุมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
การประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย
(OIC Meets CEO 2024) ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
สำนักงาน คปภ. ผนึกภาคธุรกิจประกันภัย แถลงผลการประชุมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
นายชูฉัตร ประมูลผล
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.)
เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย
(OIC Meets CEO 2024) ร่วมกับ นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย
และ ดร.สมพร สืบถวิลกุล
นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย
โดยมีผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ผู้บริหารสมาคมประกันชีวิตไทย
ผู้บริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ อาคารสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง
ชั้น 2 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยการแถลงข่าวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการประชุม OIC Meets CEO 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม 2567 ณ
โรงแรม เรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นเวทีในการพบปะและหารือกับภาคธุรกิจประกันภัยในประเด็นต่าง
ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและสามารถแก้ไขปัญหาให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยให้เติบโตควบคู่ไปกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชน
รวมถึงการสร้างธรรมาภิบาลให้กับบริษัทประกันภัยในการประกอบธุรกิจไปด้วยกัน
สำหรับผลการประชุม
OIC Meets CEO 2024 ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับการยกระดับและสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมประกันภัย
7 หัวข้อหลัก ดังนี้
หัวข้อที่ 1 การพัฒนามาตรฐานและยกระดับบทบาทของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยและผู้สอบบัญชี
โดยจะมีการกำหนดให้บริษัทมีนโยบายการหมุนเวียนเปลี่ยนงาน (Job
Rotation) ให้กับนักคณิตศาสตร์ประกันภัยในบริษัท และ/หรือมอบหมายให้นักคณิตศาสตร์ประกันภัยเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่าง
ๆ ของบริษัท เพื่อให้มีประสบการณ์ครบถ้วนในการทำงานในหน้าที่นักคณิตศาสตร์ประกันภัยแต่งตั้ง
(Appointed Actuary) รวมถึงบริษัทประกันภัยจะสนับสนุนสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทยทั้งในด้านบุคลากรและงบประมาณ
เพื่อช่วยยกระดับให้มีมาตรฐานการปฏิบัติงาน จรรยาบรรณ
และการพัฒนาทางวิชาชีพที่ต่อเนื่องและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
หัวข้อที่
2 บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารบริษัท ภายใต้การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย
โดยให้นำหลักการของร่างกฎหมายในเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อทราบ
หัวข้อที่ 3 การยกระดับการกำกับดูแล โดยใช้ข้อมูล Unaudited Data ผ่าน Company
Management Control โดยในที่ประชุมได้มีการกำหนดให้บริษัทประกันภัยจัดให้มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย
และพร้อมให้สำนักงาน คปภ. เรียกดูข้อมูลภายในระยะเวลาและช่องทางที่กำหนด
โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดและดำเนินการต่อไป
ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะใช้อำนาจทางกฎหมายในการเรียกดูข้อมูลอย่างระมัดระวังและเท่าที่จำเป็น
เพื่อใช้ในการติดตามบริษัทประกันภัยได้อย่างทันท่วงที
หัวข้อที่ 4 การยกระดับมาตรฐานการอนุมัติกรมธรรม์ประกันภัย
โดยพัฒนารูปแบบการกำกับให้ความเห็นชอบการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขันให้มากขึ้น
ผ่อนคลายการกำกับอัตราเบี้ยประกันภัยให้มีความยืดหยุ่น
การกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยมีความสอดคล้องกับต้นทุนและความเสี่ยงในการออกกรมธรรม์ประกันภัยมากขึ้น
และปรับหลักเกณฑ์จาก Rules-Based Approach เป็น Principles-Based Approach และมุ่งเน้นไปที่การเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญ
เพื่อทำให้ผู้บริโภคมีข้อมูลที่เพียงพอใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นให้บริษัทดำเนินการธุรกิจโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ 3 ข้อ ได้แก่
ผู้เอาประกันภัยจะต้องได้รับประโยชน์จากการทำประกันภัยและได้รับการปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม
บริษัทประกันภัยพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่นำออกจำหน่ายได้โดยคำนึงถึงความเสี่ยงทั้งหมดและต้องไม่ทำให้สถานะทางการเงินโดยรวมเสียหาย
และธุรกิจประกันภัยคำนึงถึงความยั่งยืนของอุตสาหกรรมประกันภัยในระยะยาว โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการผ่อนคลายการกำกับอัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
ซึ่งจะมีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการร่วมกันในรายละเอียดต่อไป
หัวข้อที่
5 การนำส่งข้อมูลในระบบฐานข้อมูลกลางด้านประกันภัย
(Insurance
Bureau System: IBS)
โดยในที่ประชุมได้มีการรายงานสถานะและปัญหาของการนำส่งข้อมูลในระบบ IBS Non-life และ IBS
Life โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงาน สำหรับ IBS Life เพื่อศึกษารายละเอียดและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
หัวข้อที่ 6 การพัฒนาแพลตฟอร์มระบบการให้บริการการออกใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย/
ผู้ประเมินวินาศภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Licensing) แบบครบวงจร ซึ่งได้มีการรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมรับทราบถึงแพลตฟอร์มดังกล่าว ทั้งนี้ ระบบ E-Licensing อยู่ในระยะแรกของการใช้งาน ภาคธุรกิจสามารถแจ้งผลการใช้งานระบบต่อสำนักงาน คปภ.
เพื่อรวบรวมปัญหาและพิจารณาปรับปรุงเพื่อให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น
หัวข้อที่ 7 แนวทางการกำกับการลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับบริษัทประกันภัย
โดยที่ประชุมรับทราบแนวทางการกำกับการลงทุนดังกล่าว และกรอบระยะเวลาในการพัฒนาแนวทางการกำกับดูแล
แบบรวมกลุ่มของธุรกิจประกันภัย เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจประกันภัยไทยไปพร้อม
ๆ กับการคำนึงถึงปัจจัย
ความเสี่ยงเชิงระบบ (Systemic
Risk) เป็นสำคัญ
เลขาธิการ
คปภ. กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เวทีการประชุม OIC Meets CEO 2024 มีประเด็นที่ต้องผลักดัน
ให้ประกันภัยเป็นกลไกขับเคลื่อนชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมของคนในชาติ
โดยนำการประกันภัยเข้าไปรองรับทุกช่วง
ของการใช้ชีวิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนร่วมกันอีก 5 เรื่องหลัก ดังนี้
หัวข้อที่ 1 แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยสุขภาพ
เนื่องจากปัจจุบันค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมาจากหลายปัจจัยที่บริษัทประกันภัยไม่สามารถควบคุมได้
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบให้เบี้ยประกันภัยสุขภาพปรับตัวสูงขึ้น
ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้ยากขึ้น จึงมีแนวคิดในการกำหนดมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้มีความเหมาะสม และการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพให้มีความเหมาะสมกับประชาชน
โดยที่ประชุมร่วมกันหารือมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และแนวทางการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพให้มีความเหมาะสมกับประชาชน
โดยให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
หัวข้อที่
2 ความร่วมมือในการส่งเสริม Insurance
literacy ระหว่างสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย โดยที่ประชุมเห็นชอบในการร่วมมือกันส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัย และจะได้มีการหารือ
ในการจัดตั้งคณะทำงานในการดำเนินการต่อไป
หัวข้อที่ 3 การจัดทำ Service
Level Agreement (SLA) มาตรฐานกรอบระยะเวลาสำหรับการให้บริการของธุรกิจประกันภัย โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการการจัดทำ
SLA ในรูปแบบ Principle-Based โดยจะมีการหารือและปรับปรุงในรายละเอียดเพิ่มเติมในคณะทำงานต่อไป
หัวข้อที่ 4 การนำส่งข้อมูลในระบบรายงานข้อมูลการรับประกันภัยรถภาคบังคับ
(CMIS) โดยจะมีการเร่งรัดและติดตามให้บริษัทประกันภัยนำส่งข้อมูลการรับประกันภัยรถภาคบังคับเป็น
Real-time ตามเป้าหมายที่สำนักงาน คปภ. กำหนดโดยเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรองรับการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
โดยกรมการขนส่งทางบกสำหรับการรับชำระภาษีรถประจำปี
ผ่านระบบเชื่อมโยงข้อมูลเพียงอย่างเดียว
และรับทราบบทลงโทษกรณีบริษัทประกันภัยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศกำหนด
หัวข้อที่ 5 การบริหารจัดการเงินกรมธรรม์ประกันภัยล่วงพ้นอายุความ
โดยมีการขอความร่วมมือบริษัทประกันภัยเร่งรัดติดตามและดำเนินการจ่ายผลประโยชน์/ค่าสินไหมทดแทน
ให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้มีสิทธิได้รับเงินให้แล้วเสร็จก่อนที่จะล่วงพ้นอายุความ
10 ปี สำหรับประกันชีวิต และ 2
ปี สำหรับประกันวินาศภัย เพราะหากเกินระยะเวลาที่กำหนดบริษัทประกันภัยจะต้องนำส่งเงินดังกล่าวเข้ากองทุนประกันชีวิต/กองทุนประกันวินาศภัยตามกฎหมาย
โดยกองทุนฯ จะติดตามและดำเนินการจ่ายคืนให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้มีสิทธิต่อไปการประชุม OIC Meets CEO 2024 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยสำนักงาน
คปภ. ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากภาคอุตสาหกรรมประกันภัย
และหวังว่าการประชุมในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการประสานความร่วมมือ
เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อยกระดับและสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบประกันภัยไทย
รวมถึงผลักดันให้การประกันภัยเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของคนในชาติ
อันจะส่งผลต่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป