สมาคมวิชาชีพกำจัดแมลง เปิดข้อมูลงานวิจัยด้านตลาดกำจัดแมลง,เทรนด์ผู้บริโภค ตลาดอสังหาฯ เพื่อเดินหน้ามุ่งส่งเสริมสมาชิกไปสู่การเพิ่มมูลค่าการบริการที่สูงขึ้น




นายกสมาคมวิชาชีพกำจัดแมลง แถลงข้อมูลงานวิจัยด้านผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง ปลวก มด เทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ หรือ น้ำยากำจัดแมลงที่มุ่งเน้นเรื่องประสิทธิภาพ ไม่มีกลิ่นฉุน มีความปลอดภัยสูง  พร้อมเผยข้อมูลแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ ผ่านศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฯ  พบว่าอสังหาฯไทยปี 2566-2567 คือช่วงที่กำลังฟื้นตัวไม่ได้กำลังหดตัว ขณะที่วันที่ 1-25 มกราคม ปี 67 ข้อมูลกรมการพัฒนาการค้า ชี้มีบริษัประเภทธุรกิจ กิจการการฆ่าเชื้อและกำจัดมาจดทะเบียนเพิ่มขึ้นอีก 5 ราย ทั้งหมดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การทำงานของสมาคมฯ ซึ่งหน้าที่ส่งเสริมให้สมาชิกทุกคนเกิดการวิวัฒนาการด้านการบริการ ที่มีองค์ความรู้และทักษะสูงนำไปสู่มูลค่าการบริการที่สูงขึ้น ผ่านการนำข้อมูลและงานวิจัยต่างๆ ที่ได้รับไปสู่การต่อยอดในการวางแผนธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสที่ดีให้กับบริษัทในการสร้างยอดขายให้เติบโตมากยิ่งขึ้น

นายเฉลิม ถาวรพานิช  นายกสมาคมวิชาชีพกำจัดแมลงหรือ THAI PROFESSIONAL PEST MANAGEMENT ASSOCIATION เปิดเผยว่า
จาการติดตามข่าวสารด้านงานวิจัยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ของแบรนด์ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง ปลวก มด พบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ หรือ น้ำยากำจัดแมลงที่มุ่งเน้นเรื่องประสิทธิภาพในการใช้งานที่ไม่มีกลิ่นฉุน มีความปลอดภัยสูง และมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ (Purchasing Criteria) ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง รวมถึงการเลือกใช้บริการบริษัทที่รับกำจัดแมลงต่างๆ ด้วยว่าน้ำยาที่ใช้ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความปลอดภัยสูง กลิ่นไม่ฉุน และมีประสิทธิภาพในการกำจัดแมลง ปลวก มด ได้ดี
ขณะเดียวกัน จากการศึกษาข้อมูลจากรายงานดัชนีค้าปลีกของ Nielsen ก็พบว่าตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง มีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 2,550 ล้านบาทขึ้นไป แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มกำจัดแมลงรวม 59% กลุ่มกำจัดปลวกและแมลงคลาน 24% และกลุ่มกำจัดยุง 17% จากตัวเลขข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดในกลุ่มที่เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง และ บริษัทที่รับกำจัดแมลงต่างๆ ยังมีช่องว่างและโอกาสในเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่อง
เพราะเป็นตลาดที่ผู้บริโภคยังมีความต้องการในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ และบริการจากบริษัทที่รับกำจัดแมลง เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิศาสตร์ร้อนชื้น จึงเหมาะกับการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลง เช่น มด ยุง ปลวก แมลงสาบ เป็นต้น ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยให้ผู้บริโภค หรือ ผู้อยู่อาศัย ปราศจากการมีแมลงมารบกวนก็มี อยู่ 2 วิธี คือ 1.การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์มากำจัดแมลงเอง และ 2. การเลือกใช้บริการบริษัทที่รับกำจัดแมลง
จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของแต่ละบริษัทที่ดำเนินธุรกิจรับกำจัดแมลง ปลวก มด จะสามารถวางกลยุทธ์ตลาดเพื่อเข้าช่วงชิงผู้บริโภคที่ป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทตนเองได้อย่างไร นอกจากนี้จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังพบว่าระหว่างวันที่ 1-25 เดือนมกราคม ปี 2567 มีบริษัทไปยื่นขอจดทะเบียนนิติบุคคลด้านการทำธุรกิจประเภทกิจการการฆ่าเชื้อและกำจัดเพิ่มขึ้นอีก 5 ราย ประกอบกับ ทางศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ก็ออกมาชี้แจงถึงทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย 2567 หลังจากลงพื้นที่ภาคสนามเพื่อสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยตลอดจนถึงสิ้นปี 2566 ที่ผ่านมา
พบว่าตลาดที่อยู่อาศัยไทยยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีหน่วยขาย (ที่อยู่อาศัย) เปิดใหม่ 101,536 หน่วย ถึงแม้จะน้อยกว่าปี 2565 (จำนวน 107,090 หน่วย) ประมาณ 5.2% แต่ก็เป็นการลดลงอย่างไม่มีนัยสำคัญใดๆ เนื่องจากไม่มีการเปิดตัวโครงการอาคารชุดราคาถูก คือ (ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท) เลย แสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังฟื้นตัวไม่ได้กำลังหดตัว
โดยเฉพาะหากพิจารณามูลค่าการเปิดจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยในปี 2566 มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 559,743 ล้านบาท น้อยกว่าปี 2561 ที่เปิดสูงสุดถึง 565,811 หน่วยแล้ว นับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว ขณะที่ราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เปิดใหม่ในปี 2566 ทั้งปี อยู่ที่ 5.513 ล้านบาท ต่างจากปี 2565 ที่เปิดตัวในราคาเฉลี่ยเพียง 4.412 ล้านบาท เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้มีรายได้น้อยมีฐานะทางเศรษฐกิจที่แย่ลงในขณะที่ผู้มีรายได้สูงอาจไม่ได้ผลกระทบไม่มากนักจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้า
อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด นายเฉลิม กล่าวเสริมว่า เพื่อให้สมาคมวิชาชีพกำจัดแมลงสามารถดำเนินงานได้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดสมาคมฯ ในการทำหน้าที่ส่งเสริมให้สมาชิกทุกคนเกิดการวิวัฒนาการด้านการบริการ ที่มีองค์ความรู้และทักษะสูงนำไปสู่มูลค่าการบริการที่สูงขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและสร้างศักยภาพให้มวลสมาชิกที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ได้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและครอบคลุม ผ่านวิธีการติดตามข่าวสารด้านงานวิจัยของธุรกิจต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจรับบริการกำจัดแมลง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า, แบรนด์ต่างๆ ของผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง, แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค และ ธุรกิจอสังหาฯ เพื่อจะสามารถนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้มาต่อยอดไปสู่การวางแผน และกลยุทธ์การตลาดต่างๆ รวมถึงการพัฒนาสินค้าของตนเองให้สามารถตอบโจทย์และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นต่อไป



Visitors: 14,181,923