‘สิงห์ เอสเตท’ เสนอขายหุ้นกู้ มูลค่า 1,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

 

 

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ ประสบความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี โดยมียอดจองซื้อรวมมูลค่า 1,000 ล้านบาทตามจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ ตอกย้ำถึงความมั่นใจและไว้วางใจที่นักลงทุนมีต่อแผนธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจกลุ่ม สิงห์ เอสเตท ท่ามกลางสภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยที่มีความผันผวน ขณะที่บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตและผลตอบแทนอย่างยั่งยืน

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘Sกล่าวว่า “บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกรายที่มั่นใจและไว้วางใจจองซื้อหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ และขอขอบคุณสถาบันการเงินชั้นนำทั้ง 3 แห่งที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุนทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ และช่องทางการเสนอขายที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้ง่ายขึ้น”

หุ้นกู้ที่ได้เสนอขายในครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 อยู่ที่ระดับ “BBB” ซึ่งเป็นกลุ่ม “ระดับลงทุน” (Investment grade) พร้อมอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ซึ่งเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 8-9 และ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาว่า หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีและบริษัทสามารถปิดการขายด้วยมูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท สะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ไทย

“ความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้ลงทุนที่มีต่อแบรนด์และแผนธุรกิจของ ‘สิงห์ เอสเตท’ รวมถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะมุ่งหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและให้เป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ รวมถึงการเดินหน้าสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น และนักลงทุน ที่ไว้วางใจเรามาโดยตลอด” นางฐิติมา กล่าว

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘Sประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน 4 หน่วยธุรกิจที่ครอบคลุม ธุรกิจโรงแรม ภายใต้การบริหารงานของ ‘เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท’ (SHR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน SHR เป็นเจ้าของโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 38 แห่ง ห้องพัก 4,552 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญกระจายอยู่ใน 3 ภูมิภาค 5 ประเทศ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย โดยมุ่งเน้นที่ Luxury Segment บริษัทฯ มีนโยบายในการพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้แก่ อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าในทำเลสำคัญในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตและให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการลงทุนในกิจการร่วมในธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม

 

Visitors: 14,181,746