วัตสันเดินหน้า รุกขยายสาขา พร้อมเปิดตัว Greener Store แห่งแรกของประเทศไทย ม่งเน้นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน
วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย
เผยทิศทางธุรกิจ ประจำปี 2567 เน้นขยายการเติบโต รวมถึงการนำความยั่งยืนมาใช้ผสานในการพัฒนาส่วนต่างๆ ของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ วัตสัน ในฐานะผู้นำตลาด ยังคงมุ่งหน้าชูกลยุทธ์การชอปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์
(O+O) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงการต่อยอดให้กับสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน
โดยทั้งหมดนี้
ตอกย้ำความมุ่งมั่นของวัตสันในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
วัตสัน ประเทศไทย เน้นการขยายการเติบโต ควบคู่ไปกับการส่งเสริมด้านความยั่งยืน
และในฐานะร้านเพื่อสุขภาพและความงามแห่งแรกที่มีสาขาครอบคลุม 77
จังหวัดทั่วประเทศไทย วัตสันยังคงเดินหน้าขยายตามแผนงาน เพื่อสร้างการเข้าถึงที่ง่าย
และสะดวกสบายให้กับลูกค้า ตอบรับความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่รวม
50 สาขา รวมถึงพัฒนาหน้าร้านที่มีอยู่อีกด้วย
เพื่อสอดรับกับเป้าหมายความยั่งยืน วัตสัน ประเทศไทย ส่งเสริม Greener Store ซึ่งเป็นรูปแบบร้านค้าเพื่อความยั่งยืนของวัตสัน ที่ได้ทดลองเริ่มปฏิบัติการจริงไปแล้วที่สาขาสยามสแควร์ โดยการนำเสนอแนวคิดและมาตรการต่างๆ
ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาปรับใช้ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
อาทิ
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา
และการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่ผลิตจากกระดาษและไม้รีไซเคิล
โดย คุณพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า
“แนวคิด Greener Store ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของวัตสันในการสร้างวัฒนธรรมที่บ่มเพาะความยั่งยืนในกระบวนการดำเนินงาน
และปฏิบัติการต่างๆ ในทุกๆ วัน”
ซึ่งแนวคิดดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การลดใช้พลังงาน
รวมถึงเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน และการมีส่วนร่วมของลูกค้า
นอกจากนี้ วัตสัน ประเทศไทย ได้นำรถบรรทุกและรถปิคอัพไฟฟ้า
มาใช้สำหรับการจัดส่งสินค้า ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ อีกทั้ง
วัตสัน ยังมุ่งมั่นในการเพิ่มสัดส่วนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกและตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า
ที่หันมาสนใจด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กลยุทธ์ O+O ของวัตสันถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการมอบประสบการณ์การชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ
โดยเฉพาะในปัจจุบัน วัตสัน มีสมาชิกวัตสันคลับ มากกว่า 9
ล้านคนที่ได้รับสิทธิพิเศษผ่าน “โปรโมเชื่อม”
โปรโมชั่นที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการชอปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์สำหรับสมาชิกวัตสัน
คลับ โดยเฉพาะ ควบคู่ไปกับการใช้ความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าจากฐานสมาชิกที่แข็งแกร่ง
มาใช้เป็นเครื่องมือในการยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับสมาชิก
กระตุ้นการมีส่วนร่วม และมัดใจสมาชิก ด้วยกิจกรรมสุดพิเศษต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับเซเลปชื่อดัง กิจกรรมเวิร์กช็อป
รวมถึงสิทธิพิเศษในการแลกบัตรกำนัลด้านไลฟ์สไตล์ต่างๆ
เพื่อตอบรับกับเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น
ในปี 2567 วัตสัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสุขภาพ ด้วยการเปิดตัววัตสัน
เดย์ไวต้า (Day-Vita) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์วัตสัน
โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ เป็นการใช้ความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีมาอย่างยาวนานของวัตสัน
ประกอบกับความเข้าใจในผู้บริโภค ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการมีสุขภาพที่ดีได้ง่าย
สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในราคาที่เหมาะสม
คุณพสิษฐ์ กล่าวเสริมอีกว่า “นอกเหนือจากความสำเร็จทางธุรกิจ
วัตสันยังตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนของชุมชน
ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่สดใส ด้วยโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น
แคมเปญ Give a Smile กับ Operation Smile
สนับสนุนเป้าหมายของเอเอส
วัตสัน กรุ๊ป ในการฟื้นฟูรอยยิ้ม 10,000
รอยยิ้มภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งก้าวต่อๆ
ไปของเรา ก็จะยังคงมุ่งมั่นในการส่งต่อประสบการณ์การชอปปิ้งที่ดีที่สุด
และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน รวมถึงสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับความสุขและยิ้มได้ในทุกๆ
วัน”