“คปภ. - ภาคธุรกิจประกันภัย” หลอมรวมพลังความคิดขับเคลื่อนระบบประกันภัยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านเวทีการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย OIC Meets CEO 2024
นายชูฉัตร ประมูลผล
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.)
เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย (OIC Meets CEO 2024) ครั้งที่ 2/2567 ร่วมกับ
นายสาระ ลํ่าซำ
ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย และ ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย พร้อมด้วย
ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(สำนักงาน คปภ.)
ผู้บริหารสมาคมประกันชีวิตไทย ผู้บริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย และผู้บริหารบริษัทประกันภัย
เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
ในช่วงเช้าก่อนเริ่มการประชุม สำนักงาน คปภ. ร่วมกับ ภาคธุรกิจประกันภัย
จัดกิจกรรม CSR “คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย
จับมือร่วมใจกันสานฝันน้อง” โดยร่วมกันบริจาคเงินกว่า 1 ล้านบาท พร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภค
และหมวกกันน็อค ให้แก่น้อง ๆ ที่อยู่ในความดูแลของบ้านราชาวดี (หญิง) และ
บ้านราชาวดี (ชาย) อำเภอปากเกร็ด
จังหวัดนนทบุรี โดยมีนายพิสิฐ พูลพิพัฒน์
รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ร่วมด้วย
ต่อมาในช่วงบ่าย
ผู้บริหารสำนักงาน คปภ. และผู้บริหารภาคธุรกิจประกันภัย
เข้าสู่เวทีการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย (OIC
Meets CEO 2024) ครั้งที่ 2/2567 โดยได้มีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อสรุปที่ประชุม (OIC Meets CEO 2024) ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่
8-9 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดชลบุรี ใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นแรก
การพัฒนามาตรฐานและยกระดับบทบาทของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยและผู้สอบบัญชี ประเด็นที่
2 การยกระดับมาตรฐานการอนุมัติกรมธรรม์ประกันภัย ประเด็นที่ 3
แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยสุขภาพ ประเด็นที่
4 การจัดทำ Service Level
Agreement (SLA)
มาตรฐานกรอบระยะเวลาสำหรับการให้บริการของธุรกิจประกันภัย และประเด็นที่ 5
การนำส่งข้อมูลในระบบ IBS โดยการดำเนินงานทั้ง 5
ประเด็นดังกล่าวมีความคืบหน้าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทุกประการ
ในโอกาสนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบหลักการและให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนระบบประกันภัยให้มีความมั่นคงยั่งยืน
ดังนี้ 1. ยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าด้วยระบบ EWS 2. การนำส่งข้อมูลการรับประกันภัยเข้าสู่ระบบรายงานข้อมูลประกันภัยรถภาคบังคับ
(Compulsory Motor Insurance System : CMIS) 3. การดำเนินการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยระหว่าง สำนักงาน คปภ.
และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย 4. การส่งเสริมการกำกับดูแลตัวแทนและนายหน้าประกันภัย และ
5. กรณีที่มีกลุ่มบุคคล/บริษัทต่างชาติขายประกันภัยในประเทศไทยโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย ทั้งนี้
เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการตกเป็นเหยื่อในการกระทำของกลุ่มบุคคลหรือบริษัทต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงแนวทางเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยในมิติใหม่
ๆ คือ 1. มาตรการส่งเสริมทางการเงินของภาครัฐ “กองทุนรวมวายุภักษ์”
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ 2. มาตรการส่งเสริมทางการเงินของภาครัฐ
โครงการ lgnite Finance เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่มุ่งเน้นการปฏิรูปการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจทางการเงิน
กำหนดสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่
และเสริมสร้างระบบนิเวศน์ทางการเงินที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจและให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในอัตราที่เหมาะสม
3. แนวทางการแก้ไขเกี่ยวกับการประกาศหรือโฆษณาการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต/วินาศภัย 4.
การดำเนินการเกี่ยวกับการกำกับบริษัทประกันภัยแบบรวมกลุ่ม (Group Wide Supervision) 5. การควบคุมคุณภาพในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยของคนกลางประกันภัย
6. การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (Climate Risk Management) และ 7. การขับเคลื่อนการพัฒนาการให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับภาคการเงิน
(Open Data for Consumer Empowerment)
การประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย OIC Meets CEO 2024
ครั้งที่ 2 ในปีนี้ สำเร็จลุล่วง และได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัยเป็นอย่างดี
ถือเป็นเวทีระดมความคิดเห็นและความร่วมมือระหว่างสำนักงาน คปภ. กับ
ภาคธุรกิจประกันภัย เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางในการขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทยอย่างเป็นรูปธรรม
อันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและการเติบโตอย่างยั่งยืนของระบบประกันภัยไทย