ผลการประเมินความทนทานของธุรกิจประกันภัยภายใต้สถานการณ์จำลอง (Stress Test) ประจำปี 2567 ภาพรวมธุรกิจประกันภัยมีความมั่นคงและเสถียรภาพ
นางสาวอายุศรี คำบรรลือ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน
คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน คปภ.
ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยมีหน้าที่ในการวิเคราะห์และติดตามความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพธุรกิจประกันภัยระดับมหภาค
รวมถึงความเสี่ยงที่ส่งผ่านระหว่างธุรกิจประกันภัยกับภาคการเงินอื่น
ๆ ดังนั้น เพื่อลดโอกาสในการเกิดความเสี่ยงและความรุนแรงของความเสี่ยงของธุรกิจประกันภัย
สำนักงาน คปภ. จึงทำการทดสอบสถานะของบริษัทภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงจำลอง (Stress Test)
เพื่อเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของบริษัทและประเมินความทนทานของบริษัทภายใต้สถานการณ์จำลองในลักษณะมองไปข้างหน้า
(Forward Looking)
รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบจากการเกิดสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบประกันภัยไทยในภาพรวม
โดยสำนักงาน คปภ. ได้กำหนดสถานการณ์ความเสี่ยงจำลอง
ปัจจัยและค่าพารามิเตอร์ที่ใช้ในการทดสอบ
และให้บริษัทประกันภัยจัดทำและนำส่งผลการทดสอบให้สำนักงาน คปภ. เป็นประจำทุกปี
เริ่มตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา
สำหรับในปี 2567
สำนักงาน คปภ.
ได้ดำเนินการประเมินความทนทานของธุรกิจประกันภัยภายใต้สถานการณ์จำลอง (Stress Test) โดยหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(สำนักงาน ก.ล.ต.) ในการกำหนดสถานการณ์จำลอง Adverse Scenario เพื่อให้ภาคธุรกิจในระบบการเงินทำการทดสอบและประเมินผลกระทบ นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ.
ยังได้จัดทำปัจจัยและค่าพารามิเตอร์ด้านประกันภัยเพิ่มเติม
โดยได้หารือร่วมกับผู้แทนจากสมาคมประกันชีวิตไทย (TLAA)
และสมาคมประกันวินาศภัยไทย (TGIA)
โดยปัจจัยที่กำหนดเพื่อให้บริษัทดำเนินการทดสอบ เช่น
การเปลี่ยนแปลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อัตราเงินเฟ้อ การเพิ่มขึ้นของค่ารักษาพยาบาล
และเหตุการณ์อุทกภัย
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ทำการรวบรวมผลการทดสอบของบริษัทประกันชีวิต
และบริษัทประกันวินาศภัย ที่มีการประเมินความทนทานของระบบประกันภัยกรณี Common Risk Scenario ซึ่งจากผลการทดสอบพบว่า ระบบประกันภัยโดยรวมมีเสถียรภาพ บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยจำนวนรวมมากกว่าร้อยละ
๘๕ สามารถทนทานต่อสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคจำลองที่กำหนดได้
ทั้งด้านฐานะความมั่นคงทางการเงิน (Solvency)
และด้านสภาพคล่อง
(Liquidity) ซึ่งบริษัทประกันชีวิตได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก ได้แก่
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ในขณะที่ บริษัทประกันวินาศภัยได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านประกันภัย
ได้แก่ เหตุการณ์อุทกภัย ทั้งนี้ บริษัทที่ไม่ผ่านการทดสอบ กล่าวคือ
มีความเปราะบางหรือมีความเสี่ยงที่จะมีฐานะหรือเงินกองทุนต่ำกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดหรือมีสภาพคล่องไม่เพียงพอรองรับความเสี่ยง
บริษัทได้มีการจัดทำแผนการดำเนินการในการรับมือกับผลกระทบดังกล่าว
สำนักงาน คปภ. จะได้มีการติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งในเรื่องความเสี่ยงหลักที่มีผลกระทบต่อระบบประกันภัย
รวมถึงมีความร่วมมือในการติดตามและประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ
กับหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง ธปท. และ สำนักงาน
ก.ล.ต.
เพื่อเตรียมพร้อมในการประสานนโยบายและออกมาตรการดูแลที่ตรงจุดเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น