นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.)เป็นประธานเปิดการจัดอบรมคู่มือและแนวทางในการปฏิบัติตามประกาศ คปภ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย และกรณีที่ถือว่าเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหรือประวิงการคืนเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันภัย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับคู่มือในการปฏิบัติตามประกาศ คปภ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทน ตามสัญญาประกันภัย และกรณีที่ถือว่าเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรือประวิงการคืนเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันภัย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา แต่พบว่ามีประเด็นปัญหาในการตีความหรือการบังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว อีกทั้ง ข้อมูลเชิงสถิติพบว่าจำนวนเรื่องร้องเรียนขอให้ลงโทษบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับการชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนที่ล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามที่เงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยกำหนด ยังคงมีจำนวนมาก และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง ดังนั้นสำนักงาน คปภ. จึงได้จัดทำคู่มือในการปฏิบัติตามประกาศฯ ดังกล่าว เพื่อเป็นคำอธิบายให้เห็นถึงเจตนารมณ์และแนวทางการใช้ การตีความกฎหมายให้แก่ภาคธุรกิจประกันภัย ให้เข้าใจหลักการและแนวคิดของกฎหมาย และสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องตามที่สำนักงาน คปภ. กำหนด นอกจากนี้ คู่มือฉบับดังกล่าวยังเป็นประโยชน์สำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. ที่จะช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนในการปฏิบัติงานให้เกิดความรวดเร็วและถูกต้อง ช่วยป้องกันความผิดพลาดในการตีความและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้สามารถปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะช่วยลดข้อโต้แย้งที่จะนำไปสู่ข้อพิพาท ที่ต้องเสียทั้งทรัพยากรและเวลา ของเจ้าหน้าที่ บริษัทประกันภัย และประชาชนผู้เอาประกันภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า การจัดทำคู่มือในการชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งกรณีที่ถือเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งในส่วนของบริษัทประกันภัยและพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. ได้รับทราบถึงเจตนารมณ์ หลักการของกฎหมาย และเห็นภาพตัวอย่างแนวทางในการตีความกฎหมายที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งคู่มือนี้อาจจะกลายเป็นคัมภีร์คู่ใจที่ทำให้เข้าใจภาษากฎหมายที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้นและสามารถนำไประยุกต์ใช้กับการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจึงนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการ “เสริม” และ “เติม” มาตรฐานในการให้บริการด้านประกันภัยที่ดีให้แก่ประชาชน เนื่องจากการวางแนวทางและกำหนดวิธีปฏิบัติงานในการพิจารณาชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนที่เป็นระบบและชัดเจน จะทำให้การพิจารณาชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะสามารถลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและระยะเวลาในการปฏิบัติงานของแผนกสินไหมส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากอุบัติภัยได้รับการเยียวยาตามสัญญาประกันภัยอย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่ออุตสาหกรรมประกันภัย ตลอดจนสร้างบรรทัดฐานและภาพลักษณ์ที่ดีของระบบประกันภัยไทย